Mansion Sports - มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าทีมชาติอังกฤษวัย 27 ปี ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากสโมสร บาร์เซโลนา ว่าได้ย้ายมาร่วมทีมจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วยสัญญายืมตัวเป็นระยะเวลา 1 ฤดูกาล

ในข้อตกลงนี้ยังมีออปชั่นซื้อขาดหลังจบฤดูกาล ซึ่งมีมูลค่าราว 30 ล้านยูโร หากทีมจากแคว้นกาตาลุญญาต้องการดึงตัวเขาไว้แบบถาวร

กระบวนการเดินทางและการต้อนรับของแรชฟอร์ดที่บาร์เซโลนา

การย้ายทีมของแรชฟอร์ดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเจ้าตัวเดินทางถึงแคว้นกาตาลุญญาในคืนวันอาทิตย์

ในเช้าวันจันทร์ เขาได้เข้าพบกับผู้บริหารระดับสูงของสโมสร และเริ่มเข้าร่วมกิจกรรมในศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพของทีมทันทีในวันถัดมา

นอกจากนี้ ยังมีภาพที่เขากำลังบันทึกวิดีโอเปิดตัวสำหรับสโมสร ก่อนที่จะลงสนามฝึกซ้อมร่วมกับเพื่อนร่วมทีมใหม่ในช่วงเย็น

สำหรับฤดูกาลแรกนี้ แรชฟอร์ดจะสวมเสื้อหมายเลข 14 ซึ่งเคยเป็นเบอร์สำคัญของสโมสรในอดีต

การเสียสละด้านการเงินและรายละเอียดของข้อตกลง

เพื่อให้การย้ายทีมนี้เกิดขึ้น แรชฟอร์ดยอมลดค่าจ้างของตนเองลงประมาณ 25% จากรายได้เดิมที่เคยได้รับจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

จากเดิมที่รับอยู่ 18 ล้านยูโรต่อปี เขาจะได้รับค่าจ้างจากบาร์เซโลนาในอัตราประมาณ 14 ล้านยูโร (ก่อนหักภาษี) หรือราว 7 ล้านยูโรหลังหักภาษี

โดยอัตรานี้ยังถือว่าอยู่ในกลุ่มบนสุดของโครงสร้างค่าจ้างของสโมสรบาร์เซโลนาในปัจจุบัน

ทั้งนี้ หากบาร์เซโลนาไม่ใช้สิทธิ์ซื้อขาดแรชฟอร์ดเมื่อสิ้นสุดสัญญายืมตัว พวกเขาจะต้องจ่ายค่าปรับจำนวน 5 ล้านยูโร ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ตัวเลือกอันดับสาม แต่กลายเป็นดีลที่เหมาะสมทางการเงิน

แม้ว่าแรชฟอร์ดจะตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับบาร์เซโลนาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงตลาดเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ภายในสโมสรก็มีความลังเลเกี่ยวกับความเหมาะสมของดีลนี้

ก่อนหน้านี้ บาร์ซาได้พยายามทาบทาม หลุยส์ ดิอาซ และ นิโก้ วิลเลียมส์ มาแล้ว แต่ด้วยข้อจำกัดด้านงบประมาณ ดีลดังกล่าวจึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้

ด้วยเหตุนี้ แรชฟอร์ดจึงกลายเป็นตัวเลือกที่ประเมินแล้วว่า “มีประสิทธิภาพทางการเงินมากที่สุด”

แม้ เดโก้ ผู้อำนวยการกีฬาของสโมสรจะยังไม่เชื่อมั่นในข้อตกลงนี้อย่างเต็มที่ แต่ในทางกลับกัน ฮันซี่ ฟลิค กุนซือคนใหม่ของทีม กลับแสดงความต้องการชัดเจนที่จะเสริมความแข็งแกร่งในแนวรุก และให้การต้อนรับนักเตะรายนี้อย่างอบอุ่น

ความท้าทายจากฟลิคและบทบาทของแรชฟอร์ดในทีม

ก่อนที่ดีลจะเสร็จสิ้น ฟลิคได้มีการพูดคุยกับแรชฟอร์ดเป็นการส่วนตัวเมื่อวันพฤหัสบดี โดยได้สื่อสารถึงความคาดหวังต่อบทบาทของเขาอย่างชัดเจน

ประเด็นสำคัญที่ฟลิคเน้นย้ำคือ ความจำเป็นในการมีส่วนร่วมของแรชฟอร์ดในช่วงที่ทีมไม่ได้ครองบอล ซึ่งเป็นจุดที่หลายฝ่ายมองว่าเขายังต้องปรับปรุง

แรชฟอร์ดเองแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความกระตือรือร้นและเต็มใจที่จะตอบรับความท้าทายครั้งใหม่นี้ โดยเชื่อว่าการย้ายร่วมทีมในฝันอย่างบาร์เซโลนาเป็นโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตค้าแข้ง

ตามแผนงานของสโมสร แรชฟอร์ดจะถูกใช้งานในตำแหน่งปีกซ้าย ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกับที่ ราฟินญ่า มักจะลงเล่นเป็นหลัก

การมาของแรชฟอร์ดจึงถูกคาดหวังว่าจะเพิ่มความยืดหยุ่นทางแทคติกให้กับทีม โดยเฉพาะในช่วงที่มีโปรแกรมแข่งขันหนาแน่น

บทใหม่ในอาชีพของแรชฟอร์ดบนเวทีลาลีกา

ด้วยความมุ่งมั่นและแรงจูงใจใหม่ แรชฟอร์ดเตรียมเปิดฉากบทใหม่ของเขาในเวทีลาลีกาสเปน

นี่คือโอกาสที่อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพการค้าแข้งของเขา หากสามารถพิสูจน์ตัวเองในเสื้อ “อาซูลกราน่า” ได้สำเร็จ

ฤดูกาล 2025–2026 ที่กำลังจะเริ่มต้น จะเป็นสนามทดสอบที่แท้จริงว่าแรชฟอร์ดสามารถยกระดับตนเอง และกลายเป็นส่วนสำคัญในแผนการของบาร์เซโลนาได้หรือไม่ในระยะยาว.