อย่างเป็นทางการ: ลูก้า โมดริช เซ็นสัญญาร่วมทีมเอซี มิลานด้วยสัญญา 1 ปี

อย่างเป็นทางการ: ลูก้า โมดริช เซ็นสัญญาร่วมทีมเอซี มิลานด้วยสัญญา 1 ปี

Mansion Sports - ลูก้า โมดริช มิดฟิลด์ระดับตำนานของทีมชาติโครเอเชีย ได้กลายเป็นนักเตะใหม่ของ เอซี มิลาน อย่างเป็นทางการ หลังจรดปากกาเซ็นสัญญาระยะเวลา 1 ปี แบบไม่มีค่าตัว พร้อมเงื่อนไขขยายสัญญาได้จนถึง ฤดูร้อนปี 2027 ซึ่งหมายความว่าเขามีโอกาสลงสนามในระดับสูงสุดจนถึงวัย 41 ปี

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจกับ เรอัล มาดริด ในศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ โมดริชก็รีบเดินทางมายังเมืองมิลานในช่วงเช้า เพื่อเข้ารับการตรวจร่างกายทั้งกับทีมแพทย์ของสโมสรและหน่วยงานด้านสุขภาพของอิตาลี ก่อนที่จะเซ็นสัญญาเข้าสู่ถิ่น ซาน ซิโร อย่างเป็นทางการ

โมดริชจะสวมเสื้อหมายเลข 14 ที่ซาน ซิโร

ในการเปิดตัวในฐานะสมาชิกใหม่ของ “รอสโซเนรี” ลูก้า โมดริชจะสวมเสื้อหมายเลข 14 ถือเป็นการเริ่มต้นบทใหม่ในอาชีพการค้าแข้งที่เต็มไปด้วยความสำเร็จของเขา โดยในเดือนกันยายนนี้ โมดริชจะมีอายุครบ 40 ปี พอดี

ด้วยประสบการณ์ระดับทีมชาติ 188 นัด กับทีมชาติโครเอเชีย และลงเล่นให้ เรอัล มาดริด ไปกว่า 597 นัด ในทุกรายการตลอด 13 ปีที่ผ่านมา โมดริชจึงนำพาความมั่นใจ ความเป็นผู้นำ และเกียรติยศระดับโลกเข้าสู่ทีมของ มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี

อาชีพค้าแข้งที่อุดมด้วยถ้วยแชมป์และเกียรติยศ

โมดริชออกจากเรอัล มาดริดในฐานะหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร เขาคว้าทุกถ้วยรางวัลหลักที่มีอยู่ในยุโรปและระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น:

  • ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 6 สมัย
  • ลา ลีกา สเปน 4 สมัย
  • ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 5 สมัย
  • ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 5 สมัย
  • โคปา เดล เรย์ 2 สมัย
  • สแปนิช ซูเปอร์คัพ 5 สมัย
  • บัลลงดอร์ ปี 2018

ความสำเร็จเหล่านี้ทำให้โมดริชได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดของโลกในรอบ สองทศวรรษที่ผ่านมา การเลือกย้ายมาเล่นให้มิลานไม่เพียงแต่เป็นการตัดสินใจในเชิงอาชีพ แต่ยังมีนัยยะทางอารมณ์ เนื่องจากเจ้าตัวยอมรับว่าเคยเป็นแฟนตัวยงของสโมสรตั้งแต่วัยเด็ก

เอซี มิลาน คือสโมสรที่สี่ในเส้นทางอาชีพของโมดริช

โมดริชจะกลายเป็นนักเตะของสโมสรที่สี่ในอาชีพการค้าแข้งของเขา โดยเริ่มต้นที่ ดินาโม ซาเกร็บ ในบ้านเกิด ก่อนจะย้ายมาสร้างชื่อในพรีเมียร์ลีกกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และจากนั้นจึงย้ายไปร่วมทัพเรอัล มาดริดเป็นเวลานานถึง 13 ปี

ตามคำให้สัมภาษณ์ของตำนานเอซี มิลานชาวโครแอตอย่าง ซโวนิเมียร์ โบบัน โมดริชเป็นแฟนบอลของมิลานมาตั้งแต่วัยเด็ก ดังนั้นเมื่อมีโอกาสได้รับข้อเสนอจากรอสโซเนรี เขาจึงไม่ลังเลที่จะตอบตกลงเพื่อทำความฝันให้เป็นจริง

การมาถึงของโมดริชนอกจากจะเติมเต็มมิติในแดนกลางแล้ว ยังเพิ่มพูน ภาวะผู้นำ และ ประสบการณ์ระดับสูง ให้กับทีมพลังหนุ่มของอัลเลกรี ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพาเอซี มิลานกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่ในเวทียุโรปอีกครั้ง

Related News

อย่างเป็นทางการ: ลูก้า โมดริช เซ็นสัญญาร่วมทีมเอซี มิลานด้วยสัญญา 1 ปี

อย่างเป็นทางการ: ลูก้า โมดริช เซ็นสัญญาร่วมทีมเอซี มิลานด้วยสัญญา 1 ปี

Mansion Sports - ลูก้า โมดริช มิดฟิลด์ระดับตำนานของทีมชาติโครเอเชีย ได้กลายเป็นนักเตะใหม่ของ เอซี มิลาน อย่างเป็นทางการ หลังจรดปากกาเซ็นสัญญาระยะเวลา 1 ปี แบบไม่มีค่าตัว พร้อมเงื่อนไขขยายสัญญาได้จนถึง ฤดูร้อนปี 2027 ซึ่งหมายความว่าเขามีโอกาสลงสนามในระดับสูงสุดจนถึงวัย 41 ปี

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจกับ เรอัล มาดริด ในศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ โมดริชก็รีบเดินทางมายังเมืองมิลานในช่วงเช้า เพื่อเข้ารับการตรวจร่างกายทั้งกับทีมแพทย์ของสโมสรและหน่วยงานด้านสุขภาพของอิตาลี ก่อนที่จะเซ็นสัญญาเข้าสู่ถิ่น ซาน ซิโร อย่างเป็นทางการ

โมดริชจะสวมเสื้อหมายเลข 14 ที่ซาน ซิโร

ในการเปิดตัวในฐานะสมาชิกใหม่ของ “รอสโซเนรี” ลูก้า โมดริชจะสวมเสื้อหมายเลข 14 ถือเป็นการเริ่มต้นบทใหม่ในอาชีพการค้าแข้งที่เต็มไปด้วยความสำเร็จของเขา โดยในเดือนกันยายนนี้ โมดริชจะมีอายุครบ 40 ปี พอดี

ด้วยประสบการณ์ระดับทีมชาติ 188 นัด กับทีมชาติโครเอเชีย และลงเล่นให้ เรอัล มาดริด ไปกว่า 597 นัด ในทุกรายการตลอด 13 ปีที่ผ่านมา โมดริชจึงนำพาความมั่นใจ ความเป็นผู้นำ และเกียรติยศระดับโลกเข้าสู่ทีมของ มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี

อาชีพค้าแข้งที่อุดมด้วยถ้วยแชมป์และเกียรติยศ

โมดริชออกจากเรอัล มาดริดในฐานะหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร เขาคว้าทุกถ้วยรางวัลหลักที่มีอยู่ในยุโรปและระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น:

  • ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 6 สมัย
  • ลา ลีกา สเปน 4 สมัย
  • ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 5 สมัย
  • ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 5 สมัย
  • โคปา เดล เรย์ 2 สมัย
  • สแปนิช ซูเปอร์คัพ 5 สมัย
  • บัลลงดอร์ ปี 2018

ความสำเร็จเหล่านี้ทำให้โมดริชได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดของโลกในรอบ สองทศวรรษที่ผ่านมา การเลือกย้ายมาเล่นให้มิลานไม่เพียงแต่เป็นการตัดสินใจในเชิงอาชีพ แต่ยังมีนัยยะทางอารมณ์ เนื่องจากเจ้าตัวยอมรับว่าเคยเป็นแฟนตัวยงของสโมสรตั้งแต่วัยเด็ก

เอซี มิลาน คือสโมสรที่สี่ในเส้นทางอาชีพของโมดริช

โมดริชจะกลายเป็นนักเตะของสโมสรที่สี่ในอาชีพการค้าแข้งของเขา โดยเริ่มต้นที่ ดินาโม ซาเกร็บ ในบ้านเกิด ก่อนจะย้ายมาสร้างชื่อในพรีเมียร์ลีกกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และจากนั้นจึงย้ายไปร่วมทัพเรอัล มาดริดเป็นเวลานานถึง 13 ปี

ตามคำให้สัมภาษณ์ของตำนานเอซี มิลานชาวโครแอตอย่าง ซโวนิเมียร์ โบบัน โมดริชเป็นแฟนบอลของมิลานมาตั้งแต่วัยเด็ก ดังนั้นเมื่อมีโอกาสได้รับข้อเสนอจากรอสโซเนรี เขาจึงไม่ลังเลที่จะตอบตกลงเพื่อทำความฝันให้เป็นจริง

การมาถึงของโมดริชนอกจากจะเติมเต็มมิติในแดนกลางแล้ว ยังเพิ่มพูน ภาวะผู้นำ และ ประสบการณ์ระดับสูง ให้กับทีมพลังหนุ่มของอัลเลกรี ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพาเอซี มิลานกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่ในเวทียุโรปอีกครั้ง

Related News