ความสัมพันธ์ระหว่างเรอัล มาดริดและวินิซิอุส จูเนียร์ตึงเครียด ท่ามกลางการเจรจาสัญญาฉบับใหม่

ความสัมพันธ์ระหว่างเรอัล มาดริดและวินิซิอุส จูเนียร์ตึงเครียด ท่ามกลางการเจรจาสัญญาฉบับใหม่

Mansion Sports เรอัล มาดริด และ วินิซิอุส จูเนียร์ เคยเดินเคียงข้างกันในจุดสูงสุดของวงการฟุตบอลโลกเมื่อหนึ่งปีก่อน โดยปีกชาวบราซิลรายนี้มีบทบาทสำคัญในการพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งที่สองในรอบสามปี และสื่อท้องถิ่นบางแห่งถึงขั้นเสนอชื่อเขาเป็นหนึ่งในตัวเต็งสำหรับรางวัลบัลลงดอร์ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ล่าสุดดูเหมือนจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างนักเตะกับสโมสรเริ่มมีรอยร้าวจากความไม่พอใจทั้งสองฝ่าย

ความต้องการค่าจ้างระดับเดียวกับเอ็มบัปเป้จุดชนวนความขัดแย้ง

ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะฤดูร้อนที่ผ่านมา วินิซิอุส จูเนียร์ ตกเป็นเป้าหมายของกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะแห่งซาอุดีอาระเบีย โดยมีรายงานว่าเขาได้พบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของซาอุดีอาระเบียเพื่อรับฟังข้อเสนอ อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา เขาได้บรรลุข้อตกลงสัญญาใหม่กับเรอัล มาดริด

แต่ตามรายงานจากสถานีวิทยุ Cadena SER ล่าสุด วินิซิอุสได้ยื่นข้อเรียกร้องใหม่ต่อสโมสร โดยต้องการให้ค่าจ้างของเขาเทียบเท่ากับคีลิยัน เอ็มบัปเป้ ซึ่งเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับค่าจ้างสูงที่สุดในวงการ

ฝ่ายบริหารของเรอัล มาดริดมีท่าทีชัดเจนต่อข้อเรียกร้องดังกล่าว โดยปฏิเสธที่จะปรับเปลี่ยนข้อตกลงที่ได้ลงนามไว้ก่อนหน้า ความตึงเครียดระหว่างสโมสรกับเอเย่นต์ของนักเตะเริ่มปรากฏชัด และมีรายงานว่าการสื่อสารระหว่างทั้งสองฝ่ายได้หยุดชะงักลง ขณะนี้ สโมสรยังไม่มีความประสงค์ที่จะเปิดการเจรจาใหม่ เว้นแต่ทางฝั่งของเอเย่นต์วินิซิอุสจะเป็นผู้เริ่มต้น หากไม่เป็นเช่นนั้น การพูดคุยครั้งต่อไปอาจต้องรอจนถึงปี 2026 เมื่อสัญญาของเขาเหลือเวลาเพียง 18 เดือน

ในสถานการณ์ที่ซับซ้อนเช่นนี้ มีเพียงประธานสโมสร ฟลอเรนติโน เปเรซ และตัววินิซิอุสเองเท่านั้น ที่มีศักยภาพเพียงพอในการคลี่คลายปัญหานี้ผ่านการพูดคุยโดยตรง

มาดริดเตรียมแผนสำรองหากวินิซิอุสตัดสินใจอำลา

ในกรณีที่วินิซิอุสยังคงยืนยันในข้อเรียกร้องของตนอย่างไม่มีการประนีประนอม รายงานล่าสุดระบุว่า เรอัล มาดริดได้เริ่มพิจารณาข้อเสนอที่เหมาะสมสำหรับการปล่อยตัวนักเตะรายนี้ โดยหากสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ประธานเปเรซได้เตรียมตัวเลือกสำหรับการทดแทนเอาไว้แล้ว และชื่อที่อยู่ในแผนคือ เออร์ลิง ฮาแลนด์

แนวทางดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าสโมสรไม่ได้ยึดติดกับนักเตะเพียงรายเดียว แม้ว่าวินิซิอุสจะเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญที่มีบทบาทอย่างยิ่งยวดในการสร้างความสำเร็จให้กับทีมในช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา

นอกจากนี้ การแสดงความสนใจในตัวฮาแลนด์ยังเป็นสัญญาณว่าประธานเปเรซให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการคงคุณภาพของแนวรุกในระยะยาว เพื่อให้ทีมสามารถแข่งขันในระดับสูงสุดต่อไป

ความกดดันต่อวินิซิอุสทวีความรุนแรงขึ้น

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ยังสามารถตีความได้ว่าเป็นความพยายามของสโมสรในการใช้แรงกดดันเชิงจิตวิทยาเพื่อผลักดันให้นักเตะยอมรับสัญญาฉบับใหม่โดยไม่ตั้งเงื่อนไขเพิ่มเติม ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า สื่อท้องถิ่นอาจเริ่มเพิ่มแรงกดดันต่อวินิซิอุสมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผลงานของเขาในสนามไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังได้

การที่วินิซิอุสตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเช่นนี้ ทำให้เขาเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง ในอีกด้านหนึ่ง เขาต้องการการยอมรับในฐานะนักเตะระดับโลกเทียบเท่าคนอื่น ๆ แต่อีกด้านหนึ่ง สโมสรกลับไม่พร้อมตอบสนองความต้องการดังกล่าว

บทสรุปของดราม่าครั้งนี้จะมีผลกระทบโดยตรงต่ออนาคตของเรอัล มาดริด ตลอดจนเส้นทางอาชีพของวินิซิอุส จูเนียร์ และแฟนบอลทั่วโลกต่างจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าจะลงเอยเช่นไร

Related News

ความสัมพันธ์ระหว่างเรอัล มาดริดและวินิซิอุส จูเนียร์ตึงเครียด ท่ามกลางการเจรจาสัญญาฉบับใหม่

ความสัมพันธ์ระหว่างเรอัล มาดริดและวินิซิอุส จูเนียร์ตึงเครียด ท่ามกลางการเจรจาสัญญาฉบับใหม่

Mansion Sports เรอัล มาดริด และ วินิซิอุส จูเนียร์ เคยเดินเคียงข้างกันในจุดสูงสุดของวงการฟุตบอลโลกเมื่อหนึ่งปีก่อน โดยปีกชาวบราซิลรายนี้มีบทบาทสำคัญในการพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งที่สองในรอบสามปี และสื่อท้องถิ่นบางแห่งถึงขั้นเสนอชื่อเขาเป็นหนึ่งในตัวเต็งสำหรับรางวัลบัลลงดอร์ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ล่าสุดดูเหมือนจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างนักเตะกับสโมสรเริ่มมีรอยร้าวจากความไม่พอใจทั้งสองฝ่าย

ความต้องการค่าจ้างระดับเดียวกับเอ็มบัปเป้จุดชนวนความขัดแย้ง

ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะฤดูร้อนที่ผ่านมา วินิซิอุส จูเนียร์ ตกเป็นเป้าหมายของกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะแห่งซาอุดีอาระเบีย โดยมีรายงานว่าเขาได้พบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของซาอุดีอาระเบียเพื่อรับฟังข้อเสนอ อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา เขาได้บรรลุข้อตกลงสัญญาใหม่กับเรอัล มาดริด

แต่ตามรายงานจากสถานีวิทยุ Cadena SER ล่าสุด วินิซิอุสได้ยื่นข้อเรียกร้องใหม่ต่อสโมสร โดยต้องการให้ค่าจ้างของเขาเทียบเท่ากับคีลิยัน เอ็มบัปเป้ ซึ่งเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับค่าจ้างสูงที่สุดในวงการ

ฝ่ายบริหารของเรอัล มาดริดมีท่าทีชัดเจนต่อข้อเรียกร้องดังกล่าว โดยปฏิเสธที่จะปรับเปลี่ยนข้อตกลงที่ได้ลงนามไว้ก่อนหน้า ความตึงเครียดระหว่างสโมสรกับเอเย่นต์ของนักเตะเริ่มปรากฏชัด และมีรายงานว่าการสื่อสารระหว่างทั้งสองฝ่ายได้หยุดชะงักลง ขณะนี้ สโมสรยังไม่มีความประสงค์ที่จะเปิดการเจรจาใหม่ เว้นแต่ทางฝั่งของเอเย่นต์วินิซิอุสจะเป็นผู้เริ่มต้น หากไม่เป็นเช่นนั้น การพูดคุยครั้งต่อไปอาจต้องรอจนถึงปี 2026 เมื่อสัญญาของเขาเหลือเวลาเพียง 18 เดือน

ในสถานการณ์ที่ซับซ้อนเช่นนี้ มีเพียงประธานสโมสร ฟลอเรนติโน เปเรซ และตัววินิซิอุสเองเท่านั้น ที่มีศักยภาพเพียงพอในการคลี่คลายปัญหานี้ผ่านการพูดคุยโดยตรง

มาดริดเตรียมแผนสำรองหากวินิซิอุสตัดสินใจอำลา

ในกรณีที่วินิซิอุสยังคงยืนยันในข้อเรียกร้องของตนอย่างไม่มีการประนีประนอม รายงานล่าสุดระบุว่า เรอัล มาดริดได้เริ่มพิจารณาข้อเสนอที่เหมาะสมสำหรับการปล่อยตัวนักเตะรายนี้ โดยหากสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ประธานเปเรซได้เตรียมตัวเลือกสำหรับการทดแทนเอาไว้แล้ว และชื่อที่อยู่ในแผนคือ เออร์ลิง ฮาแลนด์

แนวทางดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าสโมสรไม่ได้ยึดติดกับนักเตะเพียงรายเดียว แม้ว่าวินิซิอุสจะเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญที่มีบทบาทอย่างยิ่งยวดในการสร้างความสำเร็จให้กับทีมในช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา

นอกจากนี้ การแสดงความสนใจในตัวฮาแลนด์ยังเป็นสัญญาณว่าประธานเปเรซให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการคงคุณภาพของแนวรุกในระยะยาว เพื่อให้ทีมสามารถแข่งขันในระดับสูงสุดต่อไป

ความกดดันต่อวินิซิอุสทวีความรุนแรงขึ้น

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ยังสามารถตีความได้ว่าเป็นความพยายามของสโมสรในการใช้แรงกดดันเชิงจิตวิทยาเพื่อผลักดันให้นักเตะยอมรับสัญญาฉบับใหม่โดยไม่ตั้งเงื่อนไขเพิ่มเติม ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า สื่อท้องถิ่นอาจเริ่มเพิ่มแรงกดดันต่อวินิซิอุสมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผลงานของเขาในสนามไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังได้

การที่วินิซิอุสตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเช่นนี้ ทำให้เขาเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง ในอีกด้านหนึ่ง เขาต้องการการยอมรับในฐานะนักเตะระดับโลกเทียบเท่าคนอื่น ๆ แต่อีกด้านหนึ่ง สโมสรกลับไม่พร้อมตอบสนองความต้องการดังกล่าว

บทสรุปของดราม่าครั้งนี้จะมีผลกระทบโดยตรงต่ออนาคตของเรอัล มาดริด ตลอดจนเส้นทางอาชีพของวินิซิอุส จูเนียร์ และแฟนบอลทั่วโลกต่างจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าจะลงเอยเช่นไร

Related News